ชีวิตมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ



love is the flower for which love is the honey : victor hugo

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"SLOW LIFE" ช้าสักนิดเพื่อสุขที่ยั่งยืน


สังคมที่รีบเร่ง ชีวิตที่เร่งรีบขโมยความสุขของเราทุกคนไป บางคนหลงกับชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ แสงสี และ สิ่งที่เป็นวัตถุสุขซึ่งเมื่อวัตถุเสื่อม สุขก็จะหายก็ต้องไขว่คว้ากันไปอีก ร้อนรนไม่เคยพอดี
ฉะนั้นความหมายของคำว่า SLOW LIFE จะได้ว่า "การใช้ชีวิตอย่างไม่เร่งรีบ อย่างช้า ๆ ไม่กระหืด กระหอบ หรือกระวนกระวาย" (ผมขอคัดความหมายมาจากนิตยสาร คู่สร้างคู่สม ที่คุณแม่อ่านประจำ โดยมีผมแอบยืมมาอ่านประจำเช่นกัน) ซึ่งผมก็แปลเอาแบบของผมก็คือ การใช้ชีวิตให้ช้าๆให้ได้รู้ว่าสุขในทุกเวลา เพราะถ้ารีบกันเกินไปบางทีเราก็ไม่เห็นคุณค่าในสุขเล็กๆน้อยๆมุ่งไปแต่สิ่งที่ใหญ่กันเกิน คำว่า SLOW LIFE แต่ตัวอักษรทั้งแปดตัวนี้สามารถเป็นคำย่อทั้งสิ้น มาจากคำในภาษาอังกฤษแปดคำ คือ
S - Sustainable  =  สามารถรักษาเอาไว้
ในความเข้าใจของผมคิดว่าคือการรักษาสภาพแวดล้อมต่างๆทั้งวัตถุและอารมณ์โดยรอบๆตัวเรา เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะมากระทบกับภาวะของตัวเราทำให้สุขลด หรือ เพิ่มจนเกินไป คือความพอดี
L - Local   =  ท้องถิ่น
คงเป็นการดำรงชีวิตให้เหมาะให้ควรกับสภาพที่ตนอยู่ แบบเข้ากับท้องถิ่นอาศัยโดยรอบๆหรือคนหมู่นั้นๆเพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยก เหลื่อมล้ำต่ำสูง หรือ การปรับสภาพตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ให้ได้แบบอยู่ให้มีความสุขในทุกที่ที่เราอยู่
O - Organic    =  ของแท้โดยกำเนิด
 ธรรมชาติอยู่กับสิ่งที่มีมาแต่กำเนิดไม่ย้อมแต่งจนเกิดทุกข์ หลายคนไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็ไปปรุงไปแต่งจนเกิดทุกข์ในที่นี้หากเราพอใจในสิ่งที่เป็นที่มีก็จะไม่ร้อนใจ
W - Wholesome =  ส่งเสริมสุขภาพ
ให้หันมาดูแลตัวเอง พินิจให้ละเอียดถ่องแท้ ทั้งสังขารและอารมณ์  การมีชีวิตที่สุข อย่างหนึ่งที่ควรจะมีก็คือสุขภาพของร่างกายและจิตใจที่ดี การลดมองแต่สิ่งเร้าภายนอก แล้วหันมาดูแลใส่ใจตัวเราเอง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราพ้นทุกข์จากโรคภัยได้
 L - Learning    =  เรียนรู้
ผมคิดว่าหมายถึงการเปิดใจรับในสิ่งต่างๆ หากข้องใจก็ให้ศึกษาให้รู้แท้ถึงสิ่งเหล่านั้น ให้กระจ่างในความคิด อคตินั้นจะปิดกั้นตัวเรา แต่หากเราเปิดใจเรียนรู้และเรียนรู้ในการเลือกเฉพาะสิ่งดีๆ อคติก็จะหมดไป  เราก็จะลดการยึดติด เท่ากับเราได้ปล่อยใจของเราให้เป็นอิสระได้ หัวใจก็จะอิ่มเอิบในการจะเรียนรู้ในเรื่องใดๆจิตเราย่อมจดจ่อและนิ่งมุ่งมั่น นั้นเท่ากับสมาธิอย่างง่้ายๆจนเมื่อ เราเรียนรู้จนเกิดผล สิ่งนั้นคือปัญญา
I - Inspiring    =  แรงบันดาลใจ
การใช้ชีวิตของมนุษย์สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้นำพาชีวิตไป และ ก่อบังเกิดสิ่งหลายๆสิ่งดีๆนั้นคือแรงบันดาลใจ หากมนุษย์ขาดสิ่งเหล่านี้ เราคงไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีรถยนต์ ไม่มีการไปเหยียบดวงจันทร์ แรงบันดาลใจนั้นผลักดันให้เกิดความมานะ พยายาม เคยคิดและฝันกันบ้างไหมการมีความฝันหรือแรงบันดาลใจเอาไว้หล่อเลี้ยงชีวิตผมว่าทำให้ใจเป็นสุขนะ หากแต่ไม่ใช่เอาแต่นั่งฝันกลางวัน หรือ เมื่อไม่ได้ดังฝันก็ร้อนรุ่มอันนี้รู้จักระงับใจกันได้หรือไม่อยากจะสุขก็ต้องรู้จักเลือกแรงบันดาลใจ ให้กับตัวในความคิดผม คือควรเลือกสร้างแต่แรงบันดาลใจที่ดีๆ พอเหมาะพอควรกับตน หากไม่พอมีแต่ความอยาก ชีวิตก้จะไม่สุขได้เสียที
F - Fun    =  สนุกสนาน เพลิดเพลิน
รู้จักเลือกใช้ชีวิตให้มีแต่ความสุข มองโลกสดใสเสมอ ข้อนี้สำคัญแต่บางคนตีความไปสนุกกันแบบสุดโต่ง เลือกอบายมุข อยากรู้จริงๆบั่นปลายมันจะสุขกันจริงๆหรือไอ้พวกคว้าได้แต่ลมสมน้ำหน้า

E - Experience  =  ประสบการณ์
คำว่าประสบการณ์ทำให้ชีวิตสุขได้อย่างไร เราสามารถใช้ประสบการณ์มาสอนตัวเองให้ทำแต่ความดี ไม่ใช่ใช่จะเลือกแต่ทางที่มัวเมาเสมออย่างนี้จะพ้นทุกข์อย่างไร ชีวิตยิ่งผ่านวันเวลา ประสบการณ์ยิ่งเยอะในทุกด้าน  เพียงแต่เลือกสิ่งใด เรื่องดีเราจดจำ เรื่องแย่ๆเราปล่อยทิ้งไม่เอามาใส่ในใจให้บั่นทอน

เหล่านี้เป็นแนวที่ผมคิดและเลือกใช้ในชีวิตที่"ช้าสักนิดเพื่อสุขที่ยั่งยืน" ผมเฝ้ามองถึงคนที่ร้อนรน ปล่อยตัวปล่อยใจ ถึงเขาอาจจะบอกว่าเขามีเงินทองมากมายมีความสุข แต่ใจเขาพบเจอสุขจริงหรือเปล่า สบตาผู้คน หรือ หลบตา หรือใช้ชีวิตไปวันๆหลอกลวงคนไปทั่ว แม้กระทั่งตัวเอง บางทีเขาอาจจะไม่พบเจอสุขที่แท้เลยก็ได้ตลอดชีวิต

อันนี้ผมคิดแบบของผมนะแบบเอาธรรมะเข้ามาประกอบให้ได้กับ SLOW LIFE การมีชีวิตที่สุขนั้นจริงๆไม่ยากเลย..แค่เลือกทำดีตั้งแต่วันนี้ แล้วก็จะพบสุข อันความสุขไขว่คว้าหาจากใครไม่ได้ ต้องสร้างเอง จะได้"อยู่อย่างให้รู้สุขในทุกเวลา"

20 ความคิดเห็น:

  1. น่าสนใจจัง

    ตอบลบ
  2. มะยม ที่เมืองลาว20 มิถุนายน 2554 เวลา 17:40

    ขอคักลอกเอาไว้ใช้บ้างได้หรือไม่ อยากถามเจ้าของบล๊อกว่าท่านมีความสุขดีหรือไม่ค่ะ

    ตอบลบ
  3. มะยม ที่เมืองลาว21 มิถุนายน 2554 เวลา 14:33

    แวะมาอีกครั้ง คำตอบยังไม่มี ยังรออยู่นะค่ะ

    ตอบลบ
  4. ก็สุขตามสมควรครับ อย่างที่เขียน พยายาม"อยู่อย่างให้รู้สุขในทุกเวลา" สุขจริงๆเกิดจากในใจนะ ไม่ใช่ไปปรุงแต่งเอา ขโมยเค้าเอา อะไรอย่างนั้นไม่แท้ ขอบคุณที่แวะมาครับ

    ตอบลบ
  5. มะยม ที่เมืองลาว22 มิถุนายน 2554 เวลา 16:03

    ตอบมาแล้ว แต่บ้างทีการปรุงแต่งก็ช่วยหลอกตัวเองได้นะค่ะ

    ตอบลบ
  6. อืม...แล้วจะต้องหลอกกันอีกนานเท่าไหร่ล่ะครับ หลอกไปเรื่อยๆไม่เหนื่อยแย่หรือ

    ตอบลบ
  7. มะยม ที่เมืองลาว23 มิถุนายน 2554 เวลา 11:52

    เหนื่อยนะซิ

    ตอบลบ
  8. มะยม ที่เมืองลาว24 มิถุนายน 2554 เวลา 09:54

    รู้น่ะค่ะว่าหลอกน่ะไม่ดี แต่บางทีก็ไม่อยากจะทุกข์เลยทันที ถึงแม้จะรู้ว่าปลายทางมันก็ต้องทุกข์อยู่ดี ขอหน่อยล่ะกัน

    ตอบลบ
  9. อืม.....ตามสะดวกครับ

    ตอบลบ
  10. มะยม ที่เมืองลาว28 มิถุนายน 2554 เวลา 12:42

    แต่มันก็ไม่ดีใช่มั้ยค่ะ ต้องพยายามเลิกใช่มั้ยค่ะ

    ตอบลบ
  11. มะยม ที่เมืองลาว1 กรกฎาคม 2554 เวลา 14:18

    การอยู่กับความจริง บางทีก็ปวดใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  12. ความจริง ถ้าเรารับมันได้ ไม่ใช่หลอกตัวเอง มันอาจจะปวดใจ แต่เมื่อไหร่ที่เราผ่านมาได้ คุณอาจจะพบกับสุขที่มันแท้ก็ได้นะครับ แต่อย่าเพียงอ้างเอาแต่สุขเฉพาะตัวเลยล่ะกัน แล้วไปเอาเปรียบคนอื่น มันไม่ดีนะครับ ว่าแต่อยู่ที่เมืองลาว จริงรึป่าว

    ตอบลบ
  13. มะยม ที่เมืองลาว5 กรกฎาคม 2554 เวลา 12:37

    งั้นถ้าไม่อยากปวดใจต้องผ่านมันไปให้ได้ก่อนใช่ไหมค่ะ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ค่ะมาเรียนที่เมืองท่านค่ะ แต่น้องเป็นคนจำปาศักดิ์

    ตอบลบ
  14. มะยม ที่เมืองลาว7 กรกฎาคม 2554 เวลา 12:00

    ท่านเจ้าของ blog อยู่ที่ใดค่ะ

    ตอบลบ
  15. อยู่แถวนี้แหละครับ ^^

    ตอบลบ
  16. มะยม ที่เมืองลาว12 กรกฎาคม 2554 เวลา 15:05

    ขี้โกง....

    ตอบลบ
  17. มะยม ที่เมืองลาว19 กรกฎาคม 2554 เวลา 14:49

    เงียบเลย

    ตอบลบ
  18. มะยม ที่เมืองลาว22 กรกฎาคม 2554 เวลา 11:13

    kok kok

    ตอบลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2554 เวลา 12:36

    ช้าๆ

    ตอบลบ

แสดงความเห็นให้รู้ว่าคุณมาชมกันหน่อยครับ