ชีวิตมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ



love is the flower for which love is the honey : victor hugo

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสุข แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสุข แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สงบ


ความ สงบนั้นหมายถึง ความไม่วุ่นวาย ความ ไม่ดิ้นรน ความไร้ซึ่งปัญหาความเดือดร้อน
ไร้ซึ่งปัญหาหนักหน่วงถ่วงจิตใจ ไร้ความขัดแย้ง 
เป็นความราบรื่น เย็นใจ ไม่เร่าร้อน หรือถูกกดดัน  
ซึ่ง อาจเรียกอีกอย่างว่า วิเวก หรือ สันติ ก็ได้ 
ความสงบเป็นความสุขที่มีอยู่ในตัวเราทุกๆ คน
เราสามารถทำให้เกิด ทำให้เจริญขึ้นได้อย่างง่ายดาย
และเป็นความสุขที่ลึกซึ้ง ลุ่มลึกเย็น และอิ่มเอิบ 
หาความสุขใดเทียบได้ยาก 
แม้พระพุทธองค์เองท่านยังสรรเสริญความสุขที่เกิดจากความสงบ
ว่าเป็นสุดยอด แห่งความสุขชนิดหนึ่ง

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"SLOW LIFE" ช้าสักนิดเพื่อสุขที่ยั่งยืน


สังคมที่รีบเร่ง ชีวิตที่เร่งรีบขโมยความสุขของเราทุกคนไป บางคนหลงกับชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ แสงสี และ สิ่งที่เป็นวัตถุสุขซึ่งเมื่อวัตถุเสื่อม สุขก็จะหายก็ต้องไขว่คว้ากันไปอีก ร้อนรนไม่เคยพอดี
ฉะนั้นความหมายของคำว่า SLOW LIFE จะได้ว่า "การใช้ชีวิตอย่างไม่เร่งรีบ อย่างช้า ๆ ไม่กระหืด กระหอบ หรือกระวนกระวาย" (ผมขอคัดความหมายมาจากนิตยสาร คู่สร้างคู่สม ที่คุณแม่อ่านประจำ โดยมีผมแอบยืมมาอ่านประจำเช่นกัน) ซึ่งผมก็แปลเอาแบบของผมก็คือ การใช้ชีวิตให้ช้าๆให้ได้รู้ว่าสุขในทุกเวลา เพราะถ้ารีบกันเกินไปบางทีเราก็ไม่เห็นคุณค่าในสุขเล็กๆน้อยๆมุ่งไปแต่สิ่งที่ใหญ่กันเกิน คำว่า SLOW LIFE แต่ตัวอักษรทั้งแปดตัวนี้สามารถเป็นคำย่อทั้งสิ้น มาจากคำในภาษาอังกฤษแปดคำ คือ
S - Sustainable  =  สามารถรักษาเอาไว้
ในความเข้าใจของผมคิดว่าคือการรักษาสภาพแวดล้อมต่างๆทั้งวัตถุและอารมณ์โดยรอบๆตัวเรา เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะมากระทบกับภาวะของตัวเราทำให้สุขลด หรือ เพิ่มจนเกินไป คือความพอดี
L - Local   =  ท้องถิ่น
คงเป็นการดำรงชีวิตให้เหมาะให้ควรกับสภาพที่ตนอยู่ แบบเข้ากับท้องถิ่นอาศัยโดยรอบๆหรือคนหมู่นั้นๆเพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยก เหลื่อมล้ำต่ำสูง หรือ การปรับสภาพตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ให้ได้แบบอยู่ให้มีความสุขในทุกที่ที่เราอยู่
O - Organic    =  ของแท้โดยกำเนิด
 ธรรมชาติอยู่กับสิ่งที่มีมาแต่กำเนิดไม่ย้อมแต่งจนเกิดทุกข์ หลายคนไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็ไปปรุงไปแต่งจนเกิดทุกข์ในที่นี้หากเราพอใจในสิ่งที่เป็นที่มีก็จะไม่ร้อนใจ
W - Wholesome =  ส่งเสริมสุขภาพ
ให้หันมาดูแลตัวเอง พินิจให้ละเอียดถ่องแท้ ทั้งสังขารและอารมณ์  การมีชีวิตที่สุข อย่างหนึ่งที่ควรจะมีก็คือสุขภาพของร่างกายและจิตใจที่ดี การลดมองแต่สิ่งเร้าภายนอก แล้วหันมาดูแลใส่ใจตัวเราเอง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราพ้นทุกข์จากโรคภัยได้
 L - Learning    =  เรียนรู้
ผมคิดว่าหมายถึงการเปิดใจรับในสิ่งต่างๆ หากข้องใจก็ให้ศึกษาให้รู้แท้ถึงสิ่งเหล่านั้น ให้กระจ่างในความคิด อคตินั้นจะปิดกั้นตัวเรา แต่หากเราเปิดใจเรียนรู้และเรียนรู้ในการเลือกเฉพาะสิ่งดีๆ อคติก็จะหมดไป  เราก็จะลดการยึดติด เท่ากับเราได้ปล่อยใจของเราให้เป็นอิสระได้ หัวใจก็จะอิ่มเอิบในการจะเรียนรู้ในเรื่องใดๆจิตเราย่อมจดจ่อและนิ่งมุ่งมั่น นั้นเท่ากับสมาธิอย่างง่้ายๆจนเมื่อ เราเรียนรู้จนเกิดผล สิ่งนั้นคือปัญญา
I - Inspiring    =  แรงบันดาลใจ
การใช้ชีวิตของมนุษย์สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้นำพาชีวิตไป และ ก่อบังเกิดสิ่งหลายๆสิ่งดีๆนั้นคือแรงบันดาลใจ หากมนุษย์ขาดสิ่งเหล่านี้ เราคงไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีรถยนต์ ไม่มีการไปเหยียบดวงจันทร์ แรงบันดาลใจนั้นผลักดันให้เกิดความมานะ พยายาม เคยคิดและฝันกันบ้างไหมการมีความฝันหรือแรงบันดาลใจเอาไว้หล่อเลี้ยงชีวิตผมว่าทำให้ใจเป็นสุขนะ หากแต่ไม่ใช่เอาแต่นั่งฝันกลางวัน หรือ เมื่อไม่ได้ดังฝันก็ร้อนรุ่มอันนี้รู้จักระงับใจกันได้หรือไม่อยากจะสุขก็ต้องรู้จักเลือกแรงบันดาลใจ ให้กับตัวในความคิดผม คือควรเลือกสร้างแต่แรงบันดาลใจที่ดีๆ พอเหมาะพอควรกับตน หากไม่พอมีแต่ความอยาก ชีวิตก้จะไม่สุขได้เสียที
F - Fun    =  สนุกสนาน เพลิดเพลิน
รู้จักเลือกใช้ชีวิตให้มีแต่ความสุข มองโลกสดใสเสมอ ข้อนี้สำคัญแต่บางคนตีความไปสนุกกันแบบสุดโต่ง เลือกอบายมุข อยากรู้จริงๆบั่นปลายมันจะสุขกันจริงๆหรือไอ้พวกคว้าได้แต่ลมสมน้ำหน้า

E - Experience  =  ประสบการณ์
คำว่าประสบการณ์ทำให้ชีวิตสุขได้อย่างไร เราสามารถใช้ประสบการณ์มาสอนตัวเองให้ทำแต่ความดี ไม่ใช่ใช่จะเลือกแต่ทางที่มัวเมาเสมออย่างนี้จะพ้นทุกข์อย่างไร ชีวิตยิ่งผ่านวันเวลา ประสบการณ์ยิ่งเยอะในทุกด้าน  เพียงแต่เลือกสิ่งใด เรื่องดีเราจดจำ เรื่องแย่ๆเราปล่อยทิ้งไม่เอามาใส่ในใจให้บั่นทอน

เหล่านี้เป็นแนวที่ผมคิดและเลือกใช้ในชีวิตที่"ช้าสักนิดเพื่อสุขที่ยั่งยืน" ผมเฝ้ามองถึงคนที่ร้อนรน ปล่อยตัวปล่อยใจ ถึงเขาอาจจะบอกว่าเขามีเงินทองมากมายมีความสุข แต่ใจเขาพบเจอสุขจริงหรือเปล่า สบตาผู้คน หรือ หลบตา หรือใช้ชีวิตไปวันๆหลอกลวงคนไปทั่ว แม้กระทั่งตัวเอง บางทีเขาอาจจะไม่พบเจอสุขที่แท้เลยก็ได้ตลอดชีวิต

อันนี้ผมคิดแบบของผมนะแบบเอาธรรมะเข้ามาประกอบให้ได้กับ SLOW LIFE การมีชีวิตที่สุขนั้นจริงๆไม่ยากเลย..แค่เลือกทำดีตั้งแต่วันนี้ แล้วก็จะพบสุข อันความสุขไขว่คว้าหาจากใครไม่ได้ ต้องสร้างเอง จะได้"อยู่อย่างให้รู้สุขในทุกเวลา"

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553

สุขทุกข์เปลี่ยนไปตามโลก


เมื่อเกิดมีชีวิตย่อมผิดหวัง
เมื่อมีตั้ง ก็มีล้ม ล่มสลาย
เมื่อมีเกิดทั้งที ก็มีตาย
เมื่อมีหลาย ก็มีลด เป็นบทเรียน

เหมือนน้ำขึ้น น้ำลง ปลงเสียเถิด
เหมือนความเกิด ความดับ กลับแปรเปลี่ยน
เหมือนสว่าง และมืดมน วกวนเวียน
จะเสถียร สถาพร ก็ตอนตาย

การ ที่คนเราจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความเคยชิน อุปนิสัยใจคอ เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตนเองไม่ได้ ถ้าเราเข้าสู่การทำใจ การเรียนรู้ใจ การพัฒนาใจ การปรับปรุงใจ และการไม่เอาแต่ใจ

การที่ เราเอาแต่ใจตนเอง อยากจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างใจตนเอง เราจะขัดใจ อึดอัดใจ ไม่สบายใจ อยู่บ่อยๆ เพราะโลกนี้ก็ต้องหมุนไปตามแรงเหวี่ยงของโลก ปรากฏการณ์ทั้งหลายในโลกนี้ก็ต้องเป็นไปตามวิสัยโลก หากเราจะต้องให้สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นไปอย่างใจของตนเอง เราก็จะกลายเป็นคนที่หงุดหงิดและผิดหวังอยู่ตลอดเวลา

เราจะต้อง พยายามทำใจของเราให้เป็นไปตามแรงหมุนของโลก สร้างเหตุปัจจัยที่ดีที่สุด พยายามทำจิตของเราให้ดีที่สุด พร้อมที่จะรับความไม่เป็นไปดั่งใจให้ได้มากที่สุด พร้อมที่จะทำให้ใจของเรามีภาวะที่สามารถปรับได้เปลี่ยนได้ พัฒนาได้ และฝึกฝนให้เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบด้วยอารมณ์ ผัสสะ เรื่องราวใดๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ตาม

ตราบใดที่เราเป็นคน ตราบใดที่เราเดินเหินในโลกลูกนี้ เราปฏิเสธไม่ได้สิ่งที่เราไม่ชอบ สิ่งที่เราชอบ มันก็จะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามาในชีวิตจิตใจของเราตลอดเวลา กระทั่งมีถ้อยคำปรากฏในพระไตรปิฎกว่า
"ความสุขย่อมเกิดในลำดับแห่งความทุกข์ และความทุกข์ย่อมเกิดในลำดับแห่งความสุข”

หมายความว่า”ความสุข” กับ “ความทุกข์” จะเกิดดับสลับกันไป ไม่มีความสุขโดยส่วนเดียวและก็ไม่มีความทุกข์โดยส่วนเดียว

ขณะ ใดที่กำลังมีความสุขมากๆ นั้น บัดเดี๋ยวความทุกข์หนักๆก็จะต้องตามมา ในทางกลับกันขณะที่กำลังมีความทุกข์มากๆ จงเชื่อเถิดว่าบัดเดี๋ยวความสุขอันวิเศษก็จะตามมา ขณะที่มีความทุกข์และมีความสุขอยู่นั้น ก็อย่าคิดว่าจะจีรังยั่งยืน ทั้งความทุกข์และความสุขเป็นของไม่เที่ยงไ ม่สามารถที่จะอยู่ยงคงทนกับชีวิตของเราในขณะใดขณะหนึ่งยาวนานเกินไปนัก

ถ้าเราไปฝังใจอยู่กับทุกข์ เรากำลังจะทุกข์ซ้อนทุกข์ ทุกข์ซ้ำทุกข์ ทุกข์ทับถมทุกข์ที่มีอยู่แล้ว

มนุษย์ เราส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ทุกข์เพราะทุกข์เพียงชั้นเดียว แต่ไปสร้างทุกข์ทับถมทุกข์ที่มีอยู่แล้วเสียมากกว่า เป็นต้นว่ามีคนมาด่าเราหนึ่งครั้ง เราก็เกิดอาการทุกข์ในใจ เพียงแค่นี้เราก็ควรที่จะให้ทุกข์นั้นผ่านไป เพราะว่าความรู้สึกทุกข์ในใจที่ถูกเขาด่ามันเป็นเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ก็จางหายไป เราไม่ได้โกรธอยู่ตลอดเวลาเสียเมื่อไหร่ หยุดพักก็ไม่เกิดแล้ว แต่เนื่องจากว่าตัวเราเองไปนำเอาคำด่าที่เขาด่าเรานั้นมาด่าตนเองซ้ำอีกนับ จำนวนร้อยครั้งพันครั้ง ไปไหนมาไหนเราก็ยังด่าตัวเองว่า มันด่าฉัน ๆๆๆๆ ! จริงๆ แล้วเขาด่าเราเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ตัวเราเองนั่นแหละด่าตัวเองจนนับจำนวนครั้งไม่ได้

คนเราทุกข์ก็ เพราะว่าสร้างทุกข์ทับถมตัวเองที่มีทุกข์อยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีปรีดาแต่ประการใด เราจะต้องปล่อยให้ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ประเดี๋ยวเดียว ทำให้ดับไปอย่างเร็วที่สุด อย่าเอาใจไปแบกรับกับความทุกข์นั้นๆ และจงพยายามปล่อยให้ทุกข์ที่ผ่านมานั้นผ่านไป อย่าไปเก็บกักดักอารมณ์เหล่านั้นหมักหมมไว้ในจิตวิญญาณของเรายาวนานนัก ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่าเรามีชีวิตที่ไม่สามารถพัฒนาตนไปสู่จิตวิญญาณที่ โปร่งใสแจ่มใสได้