ชีวิตมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ



love is the flower for which love is the honey : victor hugo

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

ผู้กองแคน...........ความดีที่ไม่เคยลืม

บล๊อคนี้ตั้งใจอย่างมาก วงไว้ในปฎิทิน....มาสามปีแต่ก็พลาดตลอด...เพราะงาน...ผมศรัทธา ในแนวคิดของท่านผู้กองมากๆ....ขอนำความดีของท่านมาแสดงไว้ในที่นี้ครับ
 
ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข  รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ 1) กก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 29 ก.ย2550.ที่ผ่านมา จากเหตุการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่บริเวณเนินเนาวรัตน์หรือเนิน 9 ศพ ระหว่างบ้านสายสุราษฏร์ บ้านภักดี หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งขณะเกิดเหตุ ร.ต.อ.ธรณิศ เป็นหัวหน้าชุด นำกำลัง 12 นาย ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตามปกติ เมื่อลาดตระเวนมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่น้อยกว่า 20 คน ซุ่มอยู่บนเนินสูงใช้อาวุธสงคราม ทั้ง อาก้า เอ็ม 16 และลูกซอง กราดยิงใส่ จนเกิดการปะทะกันดุเดือดนานกว่า 20 นาที และคนร้ายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่และป่าทึบ หลบหนีไป หลังเสียงปืนสงบ เมื่อเข้าตรวจเคลียร์พื้นที่ พบว่า ร.ต.อ.ธรณิศ ถูกยิงเสียชีวิต

่านผู้กอง เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 38 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 54 เป็นบุตรของ รศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีสุข คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ ม.ขอนแก่น กับนางนิธิวารี ศรีสุข ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดารวม 2 คน สอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจได้อันดับที่ 1 ของรุ่น เมื่อจบการศึกษา ได้รับการบรรจุเป็น ผู้บังคับหมวดหน่วยรบพิเศษ และเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุ คนร้ายปล้นอาวุธปืนกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อต้นปี 2547 และหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ จ.ปัตตานี นราธิวาส และสุดท้าย ที่ จ.ยะลา เคยปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลายครั้ง
 
รศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีสุข ได้เล่าถึงเรื่องราวบางตอนของบุตรชายให้เราได้รู้กันว่า

"
สมัยนั้นนักเรียนวัยรุ่นในขอนแก่นจะรู้จักแคนมาก แคนเป็นคนรักเพื่อน ชอบการต่อสู้ผจญภัย เคยแอบไปชกมวยชิงรางวัลตามหมู่บ้านมา 2-3 ครั้ง จนหมอแจงซึ่งเป็นคุณแม่ตกใจ

ต่อมาแคนไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร โดยเลือกเหล่าตำรวจและสอบได้เป็นที่หนึ่งในส่วนของตำรวจทำให้ทุกคนในครอบครัวภูมิใจในตัวแคนมาก ระหว่างที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 38 แคน ซึ่งมีคะแนนสอบยอดเยี่ยมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายตอน 4 ทำหน้าที่นักเรียนปกครองบังคับบัญชาดูแลรุ่นน้องและเพื่อน ๆ และเมื่อขึ้นเหล่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 54 แคนก็ได้เป็นนักเรียนบังคับบัญชา เป็นนักกีฬาหลายประเภท เป็นหัวหน้าชมรมยูโด นักแม่นปืน นักมวย ฯลฯ


ท่านผู้กองสอบได้ที่หนึ่ง ซึ่งความจริงมีสิทธิที่จะเลือกไปประจำการที่ไหน ที่ๆสบายกว่านี้เสี่ยงน้อยกว่านี้ก็ได้แต่ท่านก็เลือกไปประจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขออ้างถึงคำนิยมหลังปกที่ พลตำรวจเอก วสิษฐ  เดชกุญชร เขียนไว้ในหนังสือ "ความฝันอันสูงสุด ผู้กองแคน ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข" ที่ผม ประทับใจกับข้อเขียนที่เขียนไว้ว่า

 

“หลาย คนเห็นว่าชีวิตของคุณธรณิศสั้นเกินไป เขาควรจะได้อยู่นานกว่านั้น เพื่อทำประโยชน์ให้มากขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะติดหรือเห็นว่า แม้เพียงอยู่ในโลกเพียง ๓๐ ปี คุณธรณิศก็ได้ใช้ชีวิตของเขาให้เป็นประโยชน์แก่คนไทยและแก่เมืองไทยที่เขา รักแล้วอย่างเต็มภาคภูมิและบริบูรณ์  

          ต่าง กับคนอีกเป็นจำนวนมากที่ทีอายุยืนยาวกว่าเขาหลายสิบปี และทำแต่สิ่งที่ไร้ประโยชน์หรือเป็นโทษ ทั้งแก่ตัวเอง แก่คนไทย และแก่เมืองไทย”



วีรกรรมของร.ต.อ.ธรณิศ หรือ"ผู้กองแคน" ใช่จะเป็นที่จดจำของเหล่าเพื่อนนรต.54 เท่านั้น แต่จะเป็นวีรกรรมที่ตำรวจทั้งหมด รวมทั้งประชาชนชาวไทย จะต้องจารึกไว้ในความทรงจำตลอดไป.....

 คุณค่าของชีวิตกับความดีที่เลือกที่จะทำ.........




 


วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

อยากได้ยินว่ารักกัน...


ดูที่เคเบิ้ลเพราะ สำหรับเราการไปดูที่โรงภาพยนต์นั้นยาก และ จริงๆไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะมันคนหมู่มาก จำได้เคยไปดูคนเดียวที ลำบากลำบนไม่รู้ว่าจะต้องเอาแขนไปวางด้านไหนดี ได้แต่นั่งตัวลีบๆลำพัง .....กลับมาต่อจำได้ว่าทีแรกไม่ค่อยสนใจเพราะดูเพียงเอาเสียงเป็นเพื่อน แต่พอได้ฟังบางประโยคในหนังก็รู้สึกคุ้นๆกับตัวเอกของเรื่องที่ชื่อ"สอง" เหมือนรู้จักกันดีเลยเลย แบบสนิทดีด้วยล่ะ และแล้วก็เลยนั่งดูแบบตั้งอกตั้งใจ แอบอินเข้าไปในเนื้อหาหน่อยๆ....และก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเอามาใส่ไว้ใน I LIKE IT ให้ได้.......

ความสนุกและเนื้อหาอันนี้ถ้าใครสนใจก็ลองไปหาดูกันเอาเองนะ.......เพราะคนสร้างคนทำเขาจะได้ได้กันบ้าง หรือ เราเล่าเนื้อหาอาจจะไม่ครบถ้วน  เพราะก็จะเลือกเฉพาะตอนที่ชอบเท่านั้น.....ซึ่งเยอะ อาทิ


"บางคนแม่ ง ! . มีคนโทรมาตั้ง 12 สาย เสือกไม่รับ. แต่บางคนนี่ดิ!!! อยากให้คนโทรมาฉิบหาย เสือกไม่มีสักสาย"   อุตส่าห์มีโทรศัพท์แพงๆใช้.....แต่ไม่มีใครโทรมาหาเลยมีแต่เรื่องงาน ไอ้ที่จะถามว่าเหนื่อยมั้ย หิวมั้ยไม่มี(อันหลังเนี่ยใส่เข้าไปเอง อินอีกแล้ว)

อารมณ์ที่เอาคนนั้นคนนี้มาแอบปลื้ม มาแอบฝันเล็กๆน้อยๆของนายสอง....มันน่ารักดี..สนุกดีถึงเขาไม่รู้ก็เถอะ.. แล้วก็พยายามทำดีให้เขา...อืม 



อีกตอนที่นายสองไปเจอนางเอกของเรื่องที่หน้าบ้านนายก้าวหลังจากที่รู้ซึ้งแล้วว่าคนที่ตัวเองปลื้ม(นางเอก)เป็นแฟนของเพื่อนที่เกิดมาฆ่าเขามาตลอดตั้งแต่เด็ก อารมณ์ตอนนั้นมันเสียใจอยู่แล้ว แต่นางเอกที่เขารักกลับเข้าใจไปว่าเป็นแผนการของเขา.....โอ้ย!!!จี๊ดดดดดด ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สมน้ำหน้าตัวเอง


"แปลกนะเพลงเดียวกัน จากที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากมาย กลับเป็นเพลงที่เรา แม้อยากจะฟังมันอีกเลย." พอนายสองรำพันเสร็จ อันตัวเราก็ได้คิดว่า........นี่แหละโลก...สุขและทุกข์ มันคู่กันจริงๆ

เมื่อนางเอกมาหานายสองด้วยอาการเสียใจที่นายก้าวไม่เข้าใจ.....แล้วให้พาไปที่ไหนก็ได้ เขาตัดสินใจพานางเอกกลับไปที่บ้านของเขา แล้วเมื่อเขาต้องตัดสินใจบอกเรื่องที่เขารุ้สึกว่าผิดต่อพ่อเขามาตลอด แต่ขึ้นชื่อว่าพ่อ ความรู้สึกที่สองได้กลับมาคือบ้านนี้พร้อมเป็นที่พักพิงสำหรับเขามาตลอด....และสิ่งที่คนชนิดนายสองต้องเป็นก็คือทนเห็นคนที่ตัวเองรักทุกข์ใจไม่ได้.....สุดท้ายเขาก็ได้เป็นพระเอกตัวจริง...จัดเต็ม...จัดหนัก...เพื่อคนที่เขารักรอบๆตัว ถึงสุดท้ายเขาจะไม่ได้อะไรเลย...ได้แค่รอยยิ้มเปื้อนน้ำตาพร้อมคำขอบคุณจากนางเอก......นี่ก็ปวดใจ




อาการที่ต้องเก็บอะไรอะไรบางสิ่งเอาไว้ในใจ.....หรือการเป็นคนที่ถูกลืมบ่อยๆ....หรือ เมื่องานเสร็จคุณก็จะไม่เห็นเขา....อย่างนายสอง มันน่าสงสาร หรือ สมน้ำหน้าดี.....ผมเข้าใจแล้ว การที่เพลงบางเพลงมันยังดังซ้ำๆบ่อยๆถึงแม้อารมณ์มันจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม...และ   

"บางทีผมว่าการที่เรารักใครคงไม่จำเป็นต้องบอกว่ารักมั้งพี่ ... แค่แบบเราได้เห็นคนที่เรารักเนี่ยยิ้ม...มีความสุข หรือเวลาเขาทุกข์เขานึกถึงเราเป็นคนแรก แค่นี้ผมก็สุขมากๆ" ประโยคหลังนี่นายสองเขาพูดอีกแล้ว.........

"หนังของผู้ด้อยโอกาสทางความรัก"