"บางคนแม่ ง ! . มีคนโทรมาตั้ง 12 สาย เสือกไม่รับ. แต่บางคนนี่ดิ!!! อยากให้คนโทรมาฉิบหาย เสือกไม่มีสักสาย" อุตส่าห์มีโทรศัพท์แพงๆใช้.....แต่ไม่มีใครโทรมาหาเลยมีแต่เรื่องงาน ไอ้ที่จะถามว่าเหนื่อยมั้ย หิวมั้ยไม่มี(อันหลังเนี่ยใส่เข้าไปเอง อินอีกแล้ว)
อารมณ์ที่เอาคนนั้นคนนี้มาแอบปลื้ม มาแอบฝันเล็กๆน้อยๆของนายสอง....มันน่ารักดี..สนุกดีถึงเขาไม่รู้ก็เถอะ.. แล้วก็พยายามทำดีให้เขา...อืม
อีกตอนที่นายสองไปเจอนางเอกของเรื่องที่หน้าบ้านนายก้าวหลังจากที่รู้ซึ้งแล้วว่าคนที่ตัวเองปลื้ม(นางเอก)เป็นแฟนของเพื่อนที่เกิดมาฆ่าเขามาตลอดตั้งแต่เด็ก อารมณ์ตอนนั้นมันเสียใจอยู่แล้ว แต่นางเอกที่เขารักกลับเข้าใจไปว่าเป็นแผนการของเขา.....โอ้ย!!!จี๊ดดดดดด ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สมน้ำหน้าตัวเอง
"แปลกนะเพลงเดียวกัน จากที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากมาย กลับเป็นเพลงที่เรา แม้อยากจะ
เมื่อนางเอกมาหานายสองด้วยอาการเสียใจที่นายก้าวไม่เข้าใจ.....แล้วให้พาไปที่ไหนก็ได้ เขาตัดสินใจพานางเอกกลับไปที่บ้านของเขา แล้วเมื่อเขาต้องตัดสินใจบอกเรื่องที่เขารุ้สึกว่าผิดต่อพ่อเขามาตลอด แต่ขึ้นชื่อว่าพ่อ ความรู้สึกที่สองได้กลับมาคือบ้านนี้พร้อมเป็นที่พักพิงสำหรับเขามาตลอด....และสิ่งที่คนชนิดนายสองต้องเป็นก็คือทนเห็นคนที่ตัวเองรักทุกข์ใจไม่ได้.....สุดท้ายเขาก็ได้เป็นพระเอกตัวจริง...จัดเต็ม...จัดหนัก...เพื่อคนที่เขารักรอบๆตัว ถึงสุดท้ายเขาจะไม่ได้อะไรเลย...ได้แค่รอยยิ้มเปื้อนน้ำตาพร้อมคำขอบคุณจากนางเอก......นี่ก็ปวดใจ
อาการที่ต้องเก็บอะไรอะไรบางสิ่งเอาไว้ในใจ.....หรือการเป็นคนที่ถูกลืมบ่อยๆ....หรือ เมื่องานเสร็จคุณก็จะไม่เห็นเขา....อย่างนายสอง มันน่าสงสาร หรือ สมน้ำหน้าดี.....ผมเข้าใจแล้ว การที่เพลงบางเพลงมันยังดังซ้ำๆบ่อยๆถึงแม้อารมณ์มันจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม...และ
"บางทีผมว่าการที่เรารักใครคงไม่จำเป็นต้องบอกว่ารักมั้งพี่ ... แค่แบบเราได้เห็นคนที่เรารักเนี่ยยิ้ม...มีความสุข หรือเวลาเขาทุกข์เขานึกถึงเราเป็นคนแรก แค่นี้ผมก็สุขมากๆ" ประโยคหลังนี่นายสองเขาพูดอีกแล้ว.........
"หนังของผู้ด้อยโอกาสทางความรัก"
หนังเค้าออกจากโรงตั้งนานแล้ว.....
ตอบลบอย่างฉันก็ทำ ก็เป็นเหมือนอย่างเคย
ตอบลบบอกเลยจากใจว่ารักเธอ....