ชีวิตมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ



love is the flower for which love is the honey : victor hugo

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

3X8=23บทเรียนจากขงจื้อ


 
เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ  มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขาผ้า  จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้าได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดัง โหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญ ล่ะ!
เอี๋ยน หุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกัน รอก
คน ซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่าใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้นผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน                                                             
เอี่ยน หุยกล่าวว่า ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”  คนซื้อผ้ากล่าวว่าหากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”  เอี๋ยนหุยกล่าวว่าหากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)” ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อ ขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสียเอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น    ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวัง กลับไปต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น   เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ    ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้  ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว   พร้อมกันนั้นก็ได้ กำชับว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง
เอี๋ยน หุยคำนับพร้อมกล่าวว่า ศิษย์จะจำใส่ใจแล้วลาอาจารย์ออกเดินทางเมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่ จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัย อยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่าอย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”     เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่   ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด   คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ?เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง  เสียงกำชับของอาจารย์ก็ ดังขึ้นมา อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้งเมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง  พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนักเมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าว ว่า ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้   ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์ บ้าง?”   ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่าเมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่ จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่  และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”  เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน” ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่าอาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน  ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”                                                                      
   เอี๋ยน หุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่าท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ  ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะ เลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด”  จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย  จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของ ไต้หวัน)      ที่ร้องว่า หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง? เช่นกันบางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ”                                                                                      
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม
ทะเลาะก ับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)
ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวกชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน
เพราะ เผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ ได้เล่าขานน่าตาม ติด                                              
 ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด

ขอบคุณ FW mail ดีๆจากเพื่อนรัก


วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ทางบุญ


เราเคยแต่คิดว่าการทำบุญก็คือการตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรซึ่งยากเหลือเกินกับ วิถีของคนเมืองเช่นเราๆท่าน
ช่วงชีวิตนึงเคยทำงานอยู่ใกล้ๆตลาดลาซาล เช้าๆจะมีพระมายืนรับบาตร ซึ่งผมไม่สนว่าจะเป็นพุทธพาณิชย์แบบเวียนของหรือไม่ แต่บ่อยๆเสมอผมมักจะเดินเลยไปใส่บาตรพระอยู่  จนผ่านมาก็เริ่มคิดหาหนทางไปเรื่อยๆจนมาพบ โดยหลายทางได้แต่รู้แต่ยังไม่เคยปฎิบัติ อยากจะเอามาเผยแพร่เป็นทางบุญกับท่านที่สนใจบ้าง

บริจาคอวัยวะ
ศูนย์บริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โทร.0-2256-4045-6 หรือ สายด่วน 1666
รายละเอียดลองเข้าไปตามลิ๊งค์ นี้ http://www.organdonate.in.th/About_Donation/donate_process.html

ธารน้ำใจ
มูลนิธิเข้าถึงโรคเอดส์  รับสมัครอาสาสมัครผู้ให้คำปรึกษาด้านโรคเอดส์  โทร.0-2372-2113

วัดพระบาทน้ำพุ รับบริจาคผ่านระบบ 1900  ลิ้งค์ http://www.phrabatnampu.org

ช่วยคนตาบอด
ห้องสมุดคนตาบอดแห่งชาติ  รับอาสมัคร มาอ่านหนังสือเพื่อทำหนังสือเสียง รับบริจาคกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว และ ปฎิทินตั้งโต๊ะเก่าที่ไม่ใช้เหล่านี้เพื่อนำมาจัดทำบัตรคำและสื่อการเรียนการสอนอักษรเบรลล์
รายละเอียดเพิ่มเติมลองเข้าไปดูกัน     สมาคมคนตาบอด http://www.tabod.com 

ช่วยเหลือสัตว์
สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) รับอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์และรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ โทร.0-2373-2886

มูลนิธิเพื่อการรักษาสุนัขจรจัด  บริจาคผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส,เซเว่น-อีเลฟเว่น ลักษณะกิจกรรมออกช่วยเหลือสุนัขที่ประสบภัยหรือบาดเจ็บ ยังรับบริจาคอาหาร ยารักษาน้องหมา อื่นๆด้วยเบอร์โทร.0-2463-9283-4 ลองเข้าไปดูตามนี้ http://www.2fsd.org

บริจาคสิ่งของเหลือใช้ 
มูลนิธิสวนแก้ว  ของพระอาจารย์พยอม กัลยาโน   โทร.0-2921-6466

เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า
มูลนิธิเด็กอ่อนพญาไท โทร.0-2584-7254-5    http://www.phayathaibabieshome.go.th

มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชนจังหวัดยโสธร รับอาสาสมัครดูแลเด็กแรกเกิดโทร.0-4572-2241    http://www.banhomehug.org

มูลนิธิเด็ก  บริจาคสิ่งของ เลี้ยงอาหารเด็ก อุปการะเด็ก
โทร. 0-2814-1481-7 FAX. 0-2814-0369    http://www.ffc.or.th/index.php


ช่วยสร้างสังคมให้ดีๆหลายด้าน
มูลนิธิกระจกเงา  มีกิจกรรมดีๆหลากหลาย รับสมัครอาสาสมัครหลายๆด้าน
 โทร.02-973-2236-7      http://www.mirror.or.th

สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย   ชวนปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพพร้อมกิจกรรมดีๆอีกหลายด้าน
รับบริจาคจักรยานเสีย เก่า นำมาซ่อมแซมส่งไปให้น้องๆที่ชนบท สนใจ  โทร. 02-6125510-1

มูลนิธิ สายธารแห่งความหวัง
วัตถุประสงค์ ที่จะต่อเติมความใฝ่ฝันของเด็ก ที่เป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และไม่สามารถรักษาได้แล้ว ให้มีโอกาสเลือกแนวทางการรักษาเพื่อการใช้ชีวิต ในช่วงสุดท้ายมีคุณภาพและมีคุณค่าทางจิตใจ โดยการทำฝันครั้งสุดท้ายให้เป็นความจริง Wishing well project
โทรศัพท์:    (+66) 0 2677 4117
โทรสาร:      (+66) 0 2677 4118


REDBULL SPIRIT 
ในก้าวที่ผ่านมา เรดบูล สปิริต ทำกิจกรรมเกี่ยวกับผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการปี 2551ถึงตอนนี้ก็ทั้งหมด 19 โครงการ มีอาสาที่เข้าร่วมทั้งหมดกว่า 1,000 คนมีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมายเพื่อสังคม สนใจลองเข้าไปดูและร่วมกิจกรรมได้ 
Tel. 02-415-0100-3   Mobile. 089-890-6349 หรือไปตามลิ้งค์ได้เลย


มูลนิธิ บ้านเด็กทานตะวัน
วัตถุประสงค์ ทำหน้าที่เป็นบ้านที่สอง ของเด็กเล็กด้อยโอกาส อายุตั้งแต่แรกเกิด – 3.6 ปี เหล่านี้ เพราะพวกเขายังอ่อนเยาว์ ไร้เดียงสา ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และต้องได้รับการโอบอุ้มดูแลจากผู้ใหญ่ทุกคน
โทรศัพท์:    (+66) 0 2814 1481-7 
โทรสาร:      (+66) 0 2814 0369





วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ทางเดิน อคติ ความฝัน และ จำ


ชีวิตคนเรานั้น แท้จริงคือ การเดินทางชนิดหนึ่ง ซึ่งเดินจาก ความเต็มไปด้วยความทุกข์ ไปยัง ที่สุดจบสิ้นของความทุกข์ ที่ตนเคยผ่านมาแล้ว นั่นเอง ไม่รู้ว่า ผู้นั้นจะ ทราบหรือไม่ทราบ รู้สึกหรือไม่รู้สึก ชีวิตก็ยังคงเป็น การเดินทาง เรื่อยอยู่นั่นเอง เมื่อเดินไป ทั้งไม่ทราบ ก็ย่อมมีความ ระหกระเหิน บอบช้ำเป็นธรรมดา

การ เดินทางของชีวิตนี้ มิใช่เป็น การเดินทางด้วยเท้า ทางของชีวิต จึงมิใช่ ทางที่จะเดินได้ด้วยเท้า อีกเช่นเดียวกัน บัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อน ได้พากันสนใจใน "ทางชีวิต" กันมากเป็นพิเศษ ในฐานะที่เป็นทางของจิต อันจะวิวัฒน์ไปในทางสูง ซึ่งจะไปได้สูงกว่าทางวัตถุหรือทางกาย อย่างที่จะเทียบกันไม่ได้เลย

สิ่งที่เรียกกันว่า ทางๆ นั้น แม้จะมีสายเดียว ก็จริง ตามธรรดา ต้องประกอบ อยู่ด้วย องค์คุณ หลายประการ เสมอ ทางเดินเท้า ทางไกล แรมเดือน สายหนึ่ง จะต้องประกอบด้วย สะพาน ร่มเงา ที่พักอาศัย ระหว่างทาง การอารักขา คุ้มครองในระหว่างทาง การหาอาหาร ได้เสมอไป ในระหว่างทาง ฯลฯ ดังนี้เป็นต้น ฉันใด ทางชีวิต แม้จะสายเดียว ดิ่งไปสู่ ความพ้นทุกข์ ก็จริง แต่ก็ต้อง ประกอบไปด้วย องค์คุณ หลายประการ ฉันนั้น

คัดมาบางส่วนจาก  ทางเดินของชีวิต    โดย ท่านพุทธทาสภิกขุ

....การมองเห็นความแตกต่างเป็นเรื่องง่าย เพราะ แค่มองปราดเดียวเราก็แยกได้ว่า ใครขาวใครดำ ใครอ้วนใครผอม แต่ การสร้างสังคมที่ยอมรับความแตกต่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากแต่ละคนยังคงเกิด อคติ ติดอยู่ในใจ  อันนี้เรื่องอคติ


....บางคนมักจะบอกว่า มีความฝันไปทำไม ยิ่งฝันสูงยิ่งตกยิ่งเจ็บหนัก แต่ ถ้าเราไม่มีความฝันละ เราไม่ตก เราไม่เจ็บ แต่ เราจะมีชีวิตไปเพื่ออะไรในแต่ละวัน   นี่ความฝัน


เคยนึกเล่นๆย้อนไปจำถึงวันแรกที่เห็นทะเลแล้วรู้สึกยังไง ตอนนั้นคงเด็ก คงตื่นเต้นปนกลัว สงสัยว่ามันทำไมสีฟ้า ว่ามันลึก แล้วคลื่นมาจากไหน แต่ความจำและความสามารถในการอธิบายความรู้สึกคงยังไม่พัฒนาเท่าตอนนี้เลยจำไม่ค่อยได้  เรื่องความจำ

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

ปีใหม่กับพร่ำเพ้อ


ปีใหม่เวียนมาอีกหนแล้วซินะ มองไปรอบๆวนๆเวียนๆไม่ได้อะไร
คนบางคนบอกให้นึกทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านมาว่าเราทำอะไรไปบ้าง
คิดแล้วให้ระลึกถึงดี ถึงชั่ว.....................นั่งทบทวน กันสักครู่

นึกถึงภาพต่างๆ อนาคตที่จะเป็นไป บางครั้งไม่เป็นไป
นึกถึงอดีตที่ผ่านมา เจ็บช้ำ สุขทุกข์ แล้วเรามีภาวะอะไรที่มากกว่า
คิด ลอง นั่ง คิด สุข ทุกข์ อะไรที่มากกว่ากัน

วันนี้ผ่านปีใหม่มาแล้วเจ็ดวัน วันเวลาก็กลับมาเป็นปกติเช่นเดิม อย่างเดิม
เวลาไหลไปเช่นสายน้ำ เราพยายามฉกฉวยไว้ แต่ทำไม่เคยสำเร็จ
ผ่านไป ทั้งดี ทั้งชั่ว สุข และ ทุกข์..................เราได้อะไรกันบ้างที่สุดก็วนมาที่เดิม