“ในเจ็ดวัน พระเจ้าสร้างโลก ในเจ็ดวินาที ผมทำลายโลกของผม”
--เบน โธมัส จาก Seven Pounds
--เบน โธมัส จาก Seven Pounds
Seven Pounds เรื่องราวลึกลับลุ้นระทึกและเรื่องราวความรักที่น่าประหลาดใจ ได้ตั้งคำถามชวนคิดเกี่ยวกับชีวิตและความตาย ความเสียใจและการให้อภัย คนแปลกหน้าและมิตรภาพ ความรักและการไถ่บาป และถ่ายทอดเรื่องราวสายสัมพันธ์ที่ผูกพันชะตากรรมของมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน อย่างน่าประหลาด
ได้ดูเมื่อวาน เนื้อหาทีแรกดูไม่รู้เรื่องแบบดูไปทำงานไปไม่มีสมาธิจนมาถึงฉากที่พระเอกของ เรื่องตะโกนเย้ยหยันเซลล์แมนตาบอดแบบสะใจ ผมเลยคิดอยากรู้ นึกไปว่าอีกหน่อยคงเป็นเรื่องการแก้แค้นของคนตาบอด แต่ยิ่งดู(แรกๆ)ยิ่งสับสนพระเอกไปช่วยคนนั้นคนนี้เรื่อยๆ จนถึงบางอ้อเมื่อรู้ว่าพระเอกของเราพยายามจะชดใช้บาปที่เค้าทำให้คนตาย 7 คน เป็นบาปหนัก 7 ปอนด์ของเค้า......ผมจะไม่เน้นเนื้อหาของภาพยนต์เท่า ไหร่เพราะถ้าอยากรู้ก็ไปหามาดูกัน แต่ผมสะกิดใจในเรื่องการให้โอกาส การกลับตัวกลับใจการแก้ไขสิ่งที่ผิด ผมว่ามันใช้ได้เสมอและมีค่าเสมอ เพียงแต่เมื่อไหร่ หลายคนจะใช้เมื่อเวลาใกล้ตาย อโหสิ แต่ถ้าเรายังมีเวลา มีโอกาส
"การแก้ไขสิ่งผิดพลาดมันดีเสมอ แต่ใครจะคิดได้เมื่อไหร่ หรือ อาจจะไม่เคยคิดเลยตลอดชีวิตก็เป็นได้ "
“การจ่ายล่วงหน้า” หรือ “ทฤษฎีส่งต่อความดี”
เรื่อง Pay It Forward
ซึ่งเป็นภาพยนต์ที่ดีมากๆ โดยเค้ากล่าวถึง “การจ่ายล่วงหน้า” หรือ “ทฤษฎีส่งต่อความดี”อันนั้นมันซึ้งกว่า ภาพยนต์ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยเด็กน้อยวัย 11 นามว่า เทรเวอร์ และคุณครูประจำชั้นชื่อว่า ซิมโมเน็ท กับการบ้านวิชาสังคมศาสตร์ว่าด้วยเรื่อง “การเปลี่ยนโลก (Change the World)” จริงแล้วเป้าหมายของการบ้านอยู่ที่กระบวนการ ไม่ใช่ผลลัพท์ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่คุณครูใส่ใจและต้องการ คือการลงมือทำ ด้วยความคิดอันน้อยนิดของเด็กคนหนึ่งที่
เริ่มคิดจากการส่งต่อความดี ให้กับคน 3 คน และ 3 คนนั้น ก็ต้องส่งต่อความดีให้กับคนอีก 3 คน ส่งต่อกันไป โดยในเรื่องเด็กน้อยไม่เคยคิดหวังอะไรตอบแทน เขาเพียงแค่ต้องการให้โจทย์การบ้านของเค้าบรรลุเท่านั้น
"ทุกๆวันนี้เรามีแต่อยากจะได้กันหมด แต่มีใครที่อยากจะให้กันบ้างมั้ย"
"ชีวิตนั้นแสนช่างงดงาม"
Life is beautiful
ทีแรกเข้าใจว่าเป็นภาพยนต์ตลก ซึ่งจริงๆมันก็ตลกแต่เป็นตลกที่แฝง บางสิ่งซ่อนไว้ พระเอกชื่อกุยโด้ และ นางเอกชื่อลอร่า มีความน่ารักของคู่นี้ให้ดูประมาณครึ่งเรื่อง ซึ่งเป็นการปูพื้นที่ยอดเยี่ยมครับ ทุกฉากส่งผลถึงกันอย่างลื่นไหล จนสุดท้ายนางเอกที่ไม่คู่ควรกับพระเอกเลยซักนิดก็ลงเอยด้วยกัน "สวัสดีครับ เจ้าหญิง" ประโยคที่พระเอกให้ทักทายนางเอกเสมอ ยกย่องเสมอ จากการปูพื้นก็ทำให้ทราบไหวพริบของกุยโด้ ที่คิดไว และมุ่งมั่นสิ่งที่ทำมากทีเดียว ทีนี้พอมีลูกชื่อโจชัวร์ ทุกอย่างที่มุ่งมั่นคือ ทำเพื่อลูก ไหวพริบทั้งหมด ความทุ่มเททั้งหมดเพื่อลูก และครอบครัวครับ เป็นภาพยนต์ที่ให้กำลังใจดีมากเลยครับ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายปานใด ตั้งสติครับ แล้วมุ่งสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ แม้ผลจะไม่ดีที่สุด แต่ทำเต็มที่แล้ว ย่อมได้ผลดีบ้างแหละ
"ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง"