คนเรามีที่มาที่ต่าง ทางที่ไปก็ต่าง ตามหลักพระพุทธศาสนา จำแนกเส้นทางของคนมีสี่เส้นทาง ดังนี้
1 มืดมา มืดไป คือเมื่อเกิดมาอาจจะมาพร้อมกรรมเก่าติดตัว เกิดมาแล้วก็ไม่เคยละบาป ไม่ทำบุญบารมี อ้างไปในเหตุต่างสารพัน ครั้นเมื่อตายไปก็จะไปในภพภูมิที่ต่ำ จริงเอามาอธิบายให้ง่ายก็คงพอประมาณเกิดมาในชาติตระกูลที่ไม่ดี ฐานะไม่ดี ก็ยังไม่พยายามไขว่คว้าไปในทางที่ดี ทำแต่สิ่งผิดศีลธรรม จนสุดท้ายก็ยิ่งพบแต่ทางต่ำเอาตัวไม่รอด อันนี้ต้องละเอียดเพราะมีบางคน ยอมทำทุกอย่างให้ตัวเองดีโดยไม่นับว่าจะผิดศีลธรรมอย่างนี้ไม่ถูก ก็ไม่ต่างจากการที่ไปแบบมืดๆหรอก
2 สว่างมา มืดไป คือ คนที่เกิดมาพร้อมบุญบารมีจากอดีตชาติ แต่กลับใช้ชีวิตในทางเสื่อม เมื่อพ้นจากโลกนี้ไปก็ไปอยู่ในภพภูมิที่ต่ำ อันนี้เหมือนข้อหนึ่งต่างแต่ทางที่มานั้นมีแต่โอกาส กลับไม่ใช้โอกาสที่มีนำพาชีวิตให้ดี กลับไปมัวเมากับกิเลสจนสุดท้ายชีวิตก็วิบัติ
3 มืดมา สว่างไป คือบุคคลที่เกิดมาอย่างลำบาก ขัดสน เนื่องจากผลกรรมในอดีต แต่เมื่อมาใช้ชีวิตกลับพยายามสร้างแต่ความดี นำพาชีวิตไปในทางธรรม เมื่อตายไปผลกรรมดีก็นำพาไปสู่ภพภูมิที่ดี เปรียบได้กับคนบางคนเกิดมาพิการ ร่างกายไม่สมประกอบ แต่บากบั่นสร้างเนื้อสร้างตัว หนักเบาสู้ไม่ท้อจนนำพาชีวิตดี
4 สว่างมา สว่างไป คือบุคคลที่ีเกิดมาพร้อมบุญบารมีแล้วเมื่อใช้ชีวิตก็ยังไม่ประพฤติประมาท หมั่นสร้างคุณงามความดี เมื่อจากก็ไปยังภพภูมิที่ดี อันนี้ไม่ต้องอธิบาย
จะเห็นได้ว่าโดยหลักพระพุทธศาสนาแล้ว ชีวิตของคนมิได้ถูกกำหนดไว้ตายตัวด้วยโชค ชะตาหรือกรรมเก่าเท่านั้นเหมือนอย่างที่หลายๆคนเอามากล่าวกัน หากแต่เราสามารถเลือกปฎิบัติชีวิตของเราให้ดำเนินไปสู่ความสุขและความสำเร็จได้ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้กรรมเก่ามาทำให้โอกาสของชีวิตเราหายไป จงเชื่อมั่นในตัวเอง สร้างกรรมดีเพื่อประครองชีวิตไปในทางที่ดี เพราะหากหลงมัวเมา บั่นปลายผลกรรมก็จะมาทำให้ชีวิตพบแต่ทางลำบาก เชื่ออย่างนั้นนะ
ขออุทิศให้กับ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง จากประวัติของท่านทำให้เห็นทางของชีวิตที่ดี โดยการสร้างจากตัวท่านเอง แม้จะไม่ได้มีโชควาสนามาช่วย..เพียงแต่สงสัยว่าทำไมคนดีๆจึงอยู่ได้ไม่นาน